พังพืดใต้ลิ้น (Lingual Frenulum) คือ เนื้อเยื่อบางๆ ที่อยู่บริเวณโคนลิ้น และสามารถเกิดขึ้นได้ในทารก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ในบางรายอาจะมีพังผืดมากกว่าปกติ ทำให้อาการเคลื่อนไหวลิ้นได้ยาก ในกรณีของเด็กทารกอาจทำให้ดูดนมไม่ได้ จะใช้เหงือกในการดูดนมแทน ทำให้คุณแม่เกิดอาการเจ็บได้ และถ้าหากปล่อยไว้นาน จะทำให้เกิด ‘ภาวะลิ้นติด (Ankyloglossia, Tongue-tie)’ ได้ ในกรณีของผู้ใหญ่ หากมีพังผืดยาวออกมาถึงปลายลิ้น จะทำให้มีอาการพูดหรือออกเสียงควบกล้ำไม่ชัด และอาจทำให้เกิดอาการไม่มั่นใจเวลาพูด และหากบางรายต้องใช้การพูดเยอะๆ ในสายอาชีพ ก็อาจทำให้เกิดการไม่มั่นใจมากขึ้นกว่าเดิมได้

smiling girl opening her mouth showing long big giant tongue looks shocked attracted wondered astonished copyspace ad human emotions marketing

พังผืดใต้ลิ้นมีกี่ระดับ?

สามารถแบ่งความรุนแรงของพังผืดใต้ลิ้นได้จากความยาวของพังผืดที่ยื่นมาเกาะที่ลิ้น โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ เล็กน้อย ปานกลาง และรุนแรง

พังผืดใต้ลิ้นรักษาอย่างไร?

สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด (Tongue tie revision) ซึ่งเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก โดยจะใช้ยาชาเฉพาะที่ มีหลากหลายวิธี เช่น การจี้ไฟฟ้า (Electrocauterization), การใช้กรรไกรเล็กๆ ขลิบที่พังผืดใต้ลิ้น (Snip), การยิงแสงเลเซอร์ (Laser) หรือ ยิงแสงพลาสมา (Plasma) แต่ในกรณีของผู้ใหญ่นั้น จะต้องมีการดมยาสลบ และเสียเลือดมากกว่าเด็กทารก

ขั้นตอนการรักษา

  1. ทายาชาบริเวณที่จะทำการผ่าตัด
  2. ตัดพังผืดใต้ลิ้น ใช้เวลาประมาณ 5 – 10  นาที
  3. ทำความสะอาดแผลหลังจากผ่าตัด

หลังจากผ่าตัดเสร็จ แพทย์จะให้กัดผ้าก๊อซเพื่อห้ามเลือดประมาณ 15 นาที จากนั้นจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 2 – 3 ชั่วโมงเท่านั้น และสามารถกลับบ้านได้เลย

ลักษณะของแผล

แผลจะมีลักษณะคล้ายกับแผลเวลาที่เรากัดโดนปากหรือกระพุ้งแก้ม แผลขาวใส คล้ายร้อนใน สามารถหายเองได้โดยไม่ต้องรับประทานยาฆ่าเชื้อ โดยจะมีการตกสะเก็ดเป็นลักษณะสีขาวเหลือง จากนั้นจะหายไปภายใน 2 – 4 สัปดาห์